วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

日本語 ภาษาญี่ปุ่น III [การออกเสียง]

จากบทความที่แล้ว เรื่องของตัวอักษร บทความนี้จะมาที่การออกเสียง
แหะๆ ไม่ใช่ว่าจะมาสอนสำเนียงเจ้าของภาษาแต่อย่างใด
แค่จะมาบอกข้อควรทราบในการออกเสียงเล็กๆน้อยๆ

เริ่มที่การออกเสียงยาว
*ยกเว้นบางคำที่ตามด้วย え เช่น   ええ、おねえさん

**ยกเว้นบางคำที่ตามด้วย  お เช่น   おおい、おおかみ、こおり เป็นต้น

งงอ่ะดิ คือว่าปกติภาษาญี่ปุ่นจะเป็นเสียงสั้นๆใช่ไหม แล้วทีนี้เมื่อต้องการให้เป็นเสียงยาว
แถวของ あ、か、さ、た、な、は、ま、や、ら、わ ซึ่งเป็นเสียง อะ จะเติมท้ายด้วย あ
มันเหมือนกับเป็นการเน้นย้ำเสียง ลองออกเสียง อะอะ มันก็จะเป็น อา
เช่นกันกับ อิอิ, อุอุ  แต่พิเศษที่สองเสียงสุดท้าย ที่เป็น  เอะอิ  และ  โอะอุ  ไม่ใช่  เอะเอะ และ โอะโอะ

ต่อมาคือ ตัว  つ เล็ก  (っ)
จะออกเสียงตามพยัญชนะที่ตามมา  คือ  k, s, t, p เช่น

              きっぷ จะอ่านว่า  ki p pu

และยังมีการรวบเสียงอีก  คือ  เมื่อเสียง  あ เจอกับเสียง  い
จะออกเสียงรวบไป ดังนี้

        あ(อะ) + い(อิ) = あい (ไอ)

------------------------------------------------------------------------

อยากเสริมในเรื่องของตัว  ん 「ひらがな」 และ  ン 「カタカナ」
เป็นตัวสะกดตัวเดียวในภาษาญี่ปุ่น  ซึ่งสามารถออกเสียง ได้ทั้ง  น, ม, ง

1.ออกเสียง  ม  เมื่อตามด้วยพยัญชนะ  b, m, p
2.ออกเสียง  ง  เมื่อตามด้วยพยัญชนะ  g, h, k  หรืออยู่พยางค์สุดท้ายของคำ

นอกเหนือจากนี้ ออกเสียง  น  ทั้งหมด

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

日本語 ภาษาญี่ปุ่น II 「カタカナ คะตะคะนะ」

มาเริ่มปวดหัวกันต่อเลยดีกว่า กับ

ตัวอักษร คะตะคะนะ カタカナ

อยากอธิบายก่อนนิดนึงว่าตัวอักษรฮิระงะนะนั้น ใช้ทั่วไป ส่วนคะตะคะนะนั้นใช้กับคำศัพท์ที่ยืมมาจากต่างประเทศ (ทับศัพท์)


* เพิ่มเติมสำหรับตัว  シ (shi)  กับ  ツ (tsu)
หลายคนอาจสงสัยว่ามันต่างกันยังไง  คือว่า  シ (shi)  เส้นที่ยาวที่สุดนั้นขีดจากล่างขึ้นบน
ส่วน  ツ (tsu)  ขีดจากบนลงล่าง

เช่นเดียวกับ  ソ (so)  กับ  ン (n)
ン (n)  ขีดจากล่างขึ้นบน  ส่วน  ソ (so)  ขีดจากบนลงล่าง

อีกตัวคือ  ノ  (no)  ถึงจะไม่มีตัวที่คล้ายกันมาให้งง แต่ก็อยากบอกไว้ว่าต้องขีดจากบนลงล่าง

และแน่นอน การเติมและการควบเสียง  เหมือนกันกับตัวอักษรฮิระงะนะ

การเติม  ゛ 「てんてん tenten」
ในวรรค  ka  ==>  ga
sa  ==>  za
ta  ==>  da
ha  ==>  ba

และการเติม ゜ 「まる maru」
ในวรรค  ha  ==>  pa


การควบเสียง ของ や ゆ よ
เยอะแยะ ยุ่งยากจริงอะไรจริง เฮ้อ!!!

日本語 ภาษาญี่ปุ่น I 「ひらがな ฮิระงะนะ」

เอาล่ะ จากภาษาง่ายๆอย่างภาษาเกาหลี เราจะมาที่ภาษายากๆอย่างภาษาญี่ปุ่นแล้ว

ต้องบอกเลยว่าระบบตัวอักษรนั้นไม่เหมือนกัน
เนื่องจากภาษาเกาหลี จะใช้วิธีการผสมคำ เหมือนในภาษาไทย คือต้องมีพยัญชนะ สระ และตัวสะกด
แต่ภาษาญี่ปุ่นนั้น แต่ละตัวอักษรมีวิธีอ่านของตัวเอง และจะแยกอ่านเป็นตัวๆไป

ดังนั้นภาษาญี่ปุ่น จึงค่อนข้างยากต่อการจดจำตัวอักษร
(พูดไปแล้วน้ำตาจะไหล T^T ยากเว่อร์)

เริ่มเลย

เอาเป็นว่าจะสอนตัวโรมันจิ  Romanji  ก่อน เพื่อความง่ายในการอ่านนะ

a  อะ                      i   อิ                      u  อุ                e  เอะ               o  โอะ

k  =  ค                   s  =  ส                  t  =  ต               n  =  น              h  =  ฮ
m  =  ม                  y  =  ย                  r  =  ร                g  =  ก              z  =  ซ
d  =  ด                   b  =  บ                 p  =  ป               j  =  จ

ประมาณนี้

ตัวอักษรแรกที่จะมาสอน คือ ตัวอักษรที่เรียกว่า ฮิระงะนะ ひらがな
โหย  เยอะขนาดนี้จะจำได้ยังไงเนี่ย

คำตอบคือท่องจำค่ะ  วิธีที่คนเขียนบล็อกนี้เกลียดที่สุด แต่มันจำเป็นสำหรับภาษานี้

แต่ความยากมันยังไม่ได้จบเท่านี้ ยังมี
การเติม  ゛ 「てんてん tenten」
ในวรรค  ka  ==>  ga
sa  ==>  za
ta  ==>  da
ha  ==>  ba

และการเติม ゜ 「まる maru」
ในวรรค  ha  ==>  pa

และอภินันทนาการจากแดนปลาดิบยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีการควบเสียง ของ や ゆ よ
ดังนี้

จะสังเกตเห็นว่า
1.や ゆ よ เมื่อนำมาเป็นตัวควบแล้วจะเขียนตัวเล็กลงครึ่งหนึ่ง
2.อ่านควบ เช่น  きゃ  ก็จะอ่านเป็น เคียะ
3.พยัญชนะที่นำมาควบเสียง จะอยู่ในเสียง อิ เช่น คิ ชิ จิ เป็นต้น รวมถึงพยัญชนะที่มีการเติม ゛ 、゜
ยกเว้นเพียงแค่ตัว ぢ เพียงตัวเดียวเท่านั้น

*เพิ่มเติมคือ    き 、 さ  ถ้าจะเขียนให้ถูกต้องจริงๆเส้นจะไม่ติดกัน (แต่เนื่องจากฟ้อนต์มันก็เลยเป็นอย่างนี้)

ปวดหัวตึ้บ ตึ้บแล้วล่ะสิ
แต่ใครบอกว่าอักษรญี่ปุ่นจะมีแบบเดียวล่ะ บทความต่อไปเราไปผจญภัยต่อที่ตัวอักษรอีกแบบของญี่ปุ่น
คือ ตัวอักษรที่เรียกว่า คะตะคะนะ カタカナ

한국어 ภาษาเกาหลี III [การผสมคำ]

เรียนพยัญชนะ  และ สระไปแล้ว
เราก็จะมาเริ่มในเรื่องของการผสมคำ

แต่ก่อนอื่นต้องมาดูที่  "มาตราตัวสะกด"สักนิด

มาตราตัวสะกด ภาษาเกาหลี  มีทั้งหมด  7  มาตรา  คือ
1.  มาตรา  แม่กก  ประกอบด้วย  ㄱ,  ㅋ,  ㄲ,  ㄳ,   ㄺ
2.  มาตรา  แม่กน  ประกอบด้วย  ㄴ,  ㄵ,  ㄶ
3.  มาตรา  แม่กด  ประกอบด้วย  ㄷ,  ㅅ,  ㅈ,  ㅊ,  ㅎ,  ㅌ,  ㅆ,  ㅉ
4.  มาตรา  แม่กม  ประกอบด้วย  ㅁ,  ㄻ
5.  มาตรา  แม่กง  ประกอบด้วย  ㅇ
6.  มาตรา  แม่กล  ประกอบด้วย  ㄹ,  ㄼ,  ㄽ,  ㄾ,  ㅀ
7.  มาตรา  แม่กบ  ประกอบด้วย  ㅂ,  ㅍ,  ㅄ,  ㄿ

ก็ดูๆตามเสียงเสียส่วนใหญ่  แต่ก็ยังมีตัวสะกดผสม  O.O'!!!
ซึ่งให้ดูตามตัวที่อยู่ด้านหน้า  ยกเว้น  ㄺ  และ  ㄿ
นอกจากนี้ยังมีตัวที่ไม่แน่นอนในการออกเสียง  คือ  ㄼ  และ  ㄺ
ส่วนใหญ่  ㄼ  จะออกเสียงเป็นแม่กล ตามตัวหน้า จึงจัดให้อยู่ในแม่กล
และ  ㄺ  ส่วนใหญ่จะออกเสียง  แม่กก  จึงจัดให้อยู่ในแม่กก

----------------------------------------------------------

การผสมคำของเกาหลี

เริ่มจาก  พยัญชนะ  ซึ่งก็ได้แก่พยัญชนะ  ทั้งเดี่ยวและคู่ในบทความแรก

                           ㄱ


สระ   สระแนวนอน  ㅜ,ㅠ,ㅗ,ㅛ,ㅡ  จะวางไว้ใต้พยัญชนะ  ดังนี้

              고  ,  구  ,  규  , 고  , 교  ,  그

สระแนวตั้ง  ㅏ,ㅑ,ㅓ,ㅕ,ㅣ,ㅔ,ㅖ,ㅐ,ㅒ  จะวางไว้ด้านขวาของพยัญชนะ  ดังนี้

 가  ,  갸  ,  거  ,  겨  ,  기  ,  게  ,  계  ,  개  ,  걔

ดังนั้นสระผสมซึ่งมีทั้งแนวนอน และแนวตั้ง  จึงวางอยู่ทั้งด้านล่าง  และด้านขวาของพยัญชนะ  ดังนี้

                  과 , 궈 , 긔 ,  궤  และ  ฯลฯ


ต่อมา คือ ตัวสะกด  ซึ่งจะวางไว้ด้านล่างสุด  ดังนี้

                         강  ,  궁  เป็นต้น


ต่ออีกนิดกับการโยงเสียง  ในภาษาเกาหลีนั้น เนื่องจากการที่  ㅇ  ไม่มีเสียงเป็นของตนเอง
จึงต้องมีการโยงเสียง  หากอยู่ในพยางค์แรก  จะโยงเสียงจากพยัญชนะ

          와   ตัว  ㅇ  +  ㅘ   อ่านว่า   วา

หากอยู่ในพยางค์ถัดไป ที่คำหน้ามีตัวสะกด  จะโยงเสียงตัวสะกดจากคำหน้า

오늘을   อ่านว่า  โอนือรึล  ไม่ใช่  โอนึลอึล  เนื่องจากการโยง  ㄹ จาก  늘

-------------------------------------------------------

ยากไหม???  ถ้ายากก็เลิกเรียน!!!!  ㅋㅋㅋ
(ㅋㅋㅋ  เป็นการหัวเราะของคนเกาหลี  แบบเดียวกับ  555  ของเรา  อารมณ์จะ คึคึคึ)

한국어 ภาษาเกาหลี II [สระ]

จากบทความเมื่อกี๊ (ตอนนี้ขยัน เลยมาอัพบ่อย)
เรารู้จักกับพยัญชนะในภาษาเกาหลีไปแว้ววววววว
ต่อมา คือ สระ นั่นเอง

ในภาษาเกาหลี สระแต่ละตัวจะมีเสียงของตัวเอง เช่น อา วา ยา เป็นต้น
ฉะนั้นเมื่อนำไปผสมกับพยัญชนะการออกเสียงจึงแตกต่างจากการใช้สระในภาษาไทย
ไอ้ตัวสระเสียง อ ก็ง่ายไป ผสมตัวไหนก็อ่านเป็นตัวนั้นเหมือนภาษาไทย
แต่ไอ้ตัวเสียง  ว  เสียง  ย  นี่สิ
เช่น สระวา + ฮ  = ฮวา (ออกเสียง ฮะวา เร็วๆ)
อ๊ะ อ๊ะ แต่อย่าเพิ่งท้อ ความเหนื่อยยากยังไม่จบเพียงแค่สระแน่นอน

ก่อนอื่นเราก็ไปรู้จักกับสระกันเลย

สระ  모음 (โม-อึม)  ประกอบด้วย

1.   ㅏ         สระ  อา
2.   ㅓ         สระ  ออ
3.   ㅗ         สระ  โอ
4.   ㅜ         สระ  อู
5.   ㅡ         สระ  อือ
6.   ㅣ         สระ  อี
7.   ㅔ         สระ  เอ
8.   ㅐ         สระ  แอ
9.   ㅚ         สระ  เว
10. ㅟ         สระ  วี
11. ㅑ         สระ  ยา
12. ㅕ         สระ  ยอ
13. ㅛ         สระ  โย
14. ㅠ         สระ  ยู
15. ㅖ         สระ  เย
16. ㅒ         สระ  แย
17. ㅘ         สระ  วา
18. ㅝ         สระ  วอ
19. ㅢ         สระ  อึย*
20. ㅞ         สระ  อูเว, เว
21. ㅙ         สระ  แว

อย่าได้คิดว่ามันยากไป  จริงๆมันง่ายนิ้ดเดียว

สังเกต   ㅏ   กับ  ㅑ   (สระอา กับ สระยา)  ก็แค่มีเพิ่มมาอีกขีดที่ไม่ใช่ขีดหลัก
ดังนั้น    ㅓ  กับ  ㅕ,
ㅗ  กับ  ㅛ,
ㅜ  กับ  ㅠ,
ㅔ  กับ  ㅖ,
ㅐ  กับ  ㅒ,
ก็เช่นเดียวกัน

ส่วนสระตัว  ว  น่ะเหรอ
จะมีแค่สระ  ㅚ  (เว)  ที่เข้าใจยากนิดนึง
นอกนั้น
ㅟ  (วี)  เกิดจาก  ㅜ  +  ㅣ   ก็แค่ออกเสียง  อูอีๆๆๆ เร็วๆ
เช่นเดียวกับ
ㅘ  (วา)        ㅗ  +  ㅏ  โออาๆๆๆๆๆ
ㅝ  (วอ)       ㅜ  +  ㅓ  อูออๆๆๆๆๆ
ㅢ  (อึย)       ㅡ  +  ㅣ  อืออีๆๆๆๆๆ   เป็นต้น

ซึ่งมีคนบอกวิธีจำอีกแบบมา  ว่าถ้ามันเป็นสระสองตัวรวมกันแบบนี้
จำไว้ว่ามันต้องเป็นเสียง   ว   แน่นอน

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า เป็น  วา  หรือ  วอ  หรือ ฯลฯ?

ก็ดูที่สระแนวตั้งสิ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ㅘ      สระแนวตั้งเป็น  สระอา  ดังนั้นต้องออกเสียงเป็น  วา

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าสระแนวนอนต้องขีดขึ้นหรือขีดลง

ก็ดูที่สระแนวตั้งสิ!!!!!!!!!!!!!!!!!

ㅘ     สระแนวตั้งเป็นสระ  ㅏ  ซึ่งขีดออกจากพยัญชนะ   (เช่น  아)
ดังนั้นสระแนวนอนก็ต้องขีดเข้าหาพยัญชนะ  (เช่น  오)

งงไหมวิธีนี้  แล้วแต่เทคนิคแล้วกัน
แต่วิธีนี้มีข้อจำกัด เนื่องจาก  ㅚ ,  ㅙ , ㅟ  ก็จำเอาแล้วกันนะ  555
เทคนิคนี้ใช้ได้กับ
ㅘ ,  ㅝ ,  ㅢ , ㅞ   แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

* สระอึย  ㅢ มีรูปแบบการออกเสียง 3  แบบ  คือ
1.  อึย  เมื่อใช้กับ ㅇ  ในรูป 의  พยางค์แรก  เช่น  의자  อึยจา
2.  อี    เมื่อใช้กับ ㅇ  ในรูป 의  ไม่อยู่ในพยางค์แรก  เช่น   회의  ฮเวอี
3.  เอ   เมื่ออยู่ในรูป  의  ที่มีความหมายว่าของ  เช่น  나의  นาเอ  (แปลว่า  ของฉัน)

**เพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงสระ
จะสังเกตว่า  สระทุกตัวเป็นสระเสียงยาวหมด
แต่!!!  เมื่อมีการผสมคำซึ่งมีตัวสะกด  จะออกเสียงเป็นสระเสียงสั้น
เช่น  으   อ่านว่า  อือ  แต่เมื่อเป็น  은   จะอ่านว่า  อึน

โดยออกเสียงสั้นยาวเป็นคู่แบบในภาษาไทยคือ
อะ   อา,  อิ    อี,  อิ   อือ,  อุ   อู  เป็นต้น

한국어 ภาษาเกาหลี I [พยัญชนะ]


เริ่มจากภาษาเกาหลีก่อนแล้วกัน เพราะ...ง่าย

จากประวัติศาสตร์ การประดิษฐ์อักษรเกาหลี (มีซีรีย์เรื่องนึงที่เกี่ยวกับเรื่องการประดิษฐ์อักษรของพระเจ้าเซจง คือเรื่อง Tree with deep roots 뿌리깊은 나무 จางฮยอกกก ><')

เข้าเรื่อง พระเจ้าเซจงมีพระประสงค์ที่จะให้ราษฎรสามารถอ่านเขียนได้ เนื่องจากในสมัยนั้นชาวโชซอนใช้ภาษาจีนในการเขียน ซึ่งเป็นภาษาที่ยากแก่การเข้าใจ และมีเสียงที่ไม่ตรงกับภาษาพูดของชาวโชซอนเอง พระองค์ก็เลยประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ซะ

แน่นอนว่าการประดิษฐ์เกิดขึ้นเพื่อให้ราษฎรสามารถใช้ได้ง่าย ดังนั้นภาษาเกาหลีจึงมีตัวอักษร (한글) ที่ง่ายตามมา

ภาษาเกาหลีนั้น ในเกาหลีเหนือจะเรียกว่า 조선어 (โช-ซอน-นอ)
ส่วนเกาหลีใต้ จะเรียกว่า 한국어 (ฮัน-กุก-กอ)

เริ่มจากตัวอักษร ซึ่งเรียกว่า 한글 (ฮัน-กึล)

พยัญชนะ 자음 (จา-อึม)  ประกอบด้วย  14 พยัญชนะเดี่ยว (단자음 ทัน-จา-อึม) ดังนี้
1.     ㄱ           기역  (คี-ยอก)           แทนเสียง  ค, ก*
2.    ㄴ            니은  (นี-อึน)             แทนเสียง  น
3.    ㄷ            디귿  (ที-กึด)             แทนเสียง  ท, ด*
4.    ㄹ            리을  (รี-อึน)              แทนเสียง   ร**
5.    ㅁ            미음  (มี-อึม)             แทนเสียง   ม
6.    ㅂ            비읍  (พี-อึบ)             แทนเสียง   พ, บ*
7.    ㅅ            시옷  (ชี-อด)             แทนเสียง   ซ***
8.    ㅇ            이응  (อี-อึง)              แทนเสียง   -****
9.    ㅈ            지읒  (ชี-อึด)             แทนเสียง   ช, จ*
10.  ㅎ            히읗  (ฮี-อึด)             แทนเสียง   ฮ
11.  ㅋ            키읔  (คี้-อึก)             แทนเสียง   ค (เสียงหนัก)
12.  ㅌ            티읕  (ที้-อึด)             แทนเสียง   ท (เสียงหนัก)
13.  ㅍ            피읖  (พี้-อึบ)             แทนเสียง   พ (เสียงหนัก)
14.  ㅊ            치읓  (ชี้-อึด)             แทนเสียง   ช (เสียงหนัก)

และพยัญชนะคู่ (쌍자음 ซัง-จา-อึม) อีก  5 ตัว คือ
1.  ㄲ           쌍기역  (ซัง-คี-ยอก)        แทนเสียง  ค
2.  ㄸ           쌍디귿  (ซัง-ที-กึด)          แทนเสียง  ต
3.  ㅃ           쌍비읍  (ซัง-พี-อึบ)          แทนเสียง  ป
4.  ㅆ           쌍시옷  (ซัง-ชี-อด)          แทนเสียง  ซ
5.  ㅉ           쌍지읒  (ซัง-ชี-อึด)          แทนเสียง  ช

*  ㄱ,ㄷ,ㅂ,ㅈ  จะแทนเสียง  ค, ท, พ, ช ตามลำดับ หากอยู่ในพยางค์แรกของคำ
แต่ถ้าอยู่ในพยางค์อื่นๆ จะออกเสียงเป็น  ก, ด, บ, จ ตามลำดับ
เช่น 거기  อ่านว่า คอกี,   바보   อ่านว่า  พาโบ

**  ㄹ ออกเสียงเมื่อเป็นพยัญชนะ ว่า ร  , เมื่อเป็นตัวสะกดออกเสียงว่า  ล (แม่กล ไม่ใช่แม่กน)
งงใช่ไหมล่ะ  แค่ออกเสียงให้มันแอ๊ดสะแว๊นซ์หน่อย 55

***  ตัว  ㅅ  ออกเสียงเป็น  ซ  ก็จริง  แต่เมื่อผสมกับ  สระอี  ㅣ  จะออกเสียงเป็น  ช
เช่น  시옷   อ่านว่า  ชี-อด  ไม่ใช่  ซี-อด

****  ㅇ ไม่มีเสียงในการออกเสียง  แต่เมื่อเป็นตัวสะกดจะออกเสียงเป็นแม่กง
เช่น  ㅇ + ㅑ (อีอึง + สระยา) = 야 ยา ,  이응  อ่านว่า อีอึง

งงไหม ก็คนไม่เคยงงเป็นคนสรุปก็งี้แหละ มันเลยดูไม่ค่อยจะเข้าใจง่ายเลย
แต่อักษรพวกนี้จำง่ายจริงๆนะ สองสามวันก็จำได้แล้ว  ตอนนี้ยังไม่ยากหรอก
กับแค่พยัญชนะ ถ้าเจอไวยากรณ์สิ มีเฮ ^^

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทนำ ว่าด้วยการเกริ่น

อะแฮ่มๆ อย่างแรกก็ขอแนะนำตัวก่อนนะ เผื่อมีเหยื่อผ่านเข้ามาในบล็อกนี้ 555
คนเขียนบล็อกนี้ เรียนภาษา... (ไม่บอก) ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย
แล้วก็อยากเขียนบล็อกของตัวเองบ้าง เผื่อดังเปรี้ยงปร้าง ฟ้าผ่า!

เอาเป็นว่าจะเขียนไปทั่ว ส่วนใหญ่น่าจะเป็นภาษาเกาหลีกับภาษาญี่ปุ่น
ที่คิดๆไว้ก็อยากทำพจนานุกรม สี่ภาษา แต่เกรงว่าคำศัพท์ในสมองมันมีไม่เพียงพอ

ขี้เกียจพูดมาก เริ่มกันเลยดีกว่า!!!

*edit  :  เตือนไว้ก่อนว่าคนเขียนบล็อกนี้ ไม่ค่อยเก่งเรื่องการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจเหมือนตัวเอง
อยากถามอะไรก็ถามได้ แต่ตอบไปจะเข้าใจหรือไม่ ไม่รู้ด้วยนะ  555

**edit2  :  ลืมบอกแรงบันดาลใจในการเรียนภาษา  ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจนี่แย่เลย
แท่น  แท๊น~


แน่นอนว่าเหตุผลของผู้หญิง ย่อมเป็น  ปู้จายยยยยยยยย~
เค้าคือ

                           동! 방! 신! 기!!!!!!!
ถ้าภาษาญี่ปุ่นเก๊าะ!!!

        東方神起

แว๊บมาบอกแค่นี้ หวังว่าจะเป็นการอีดิทครั้งสุดท้ายของเรา 555